วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559


TIGER 2

ไทเกอร์ 2 เป็นรุ่นต่อจากไทเกอร์ 1 เนื่องจากการคาดการณ์ของเสนาธิการเยอรมันว่า โซเวียตกำลังผลิตรถถังที่ทรงอานุภาพมากยิ่งขึ้น รถถังรุ่นนี้ก็ถูกผลิตโดยสองบริษัทฮนเซลและปอร์เช่แต่สองบริษัทนั้นได้ออกแบบรถถังที่มีความแตกต่างกันโดยเฉพาะป้อมปืน ป้อมปืนของปอร์เช่มีข้อด้อยกว่าของเฮนเซลเพราะส่วนโค้งด้านหน้าป้อมของปอร์เช่นั้นมีความหนา 110 มิลลิเมตร บางกว่าป้อมของเฮนเซลถึง 70 มิลลิเมตร และป้อมผ.บ.รถของปอร์เช่ที่ยื่นออกมานั้นมีเกราะที่บางมากซึ่งอันตรายมากหากถูกยิง กองทัพเยอรมันเลิกใช้ป้อมปืนของปอร์เช่และหันมาใช้ป้อนปืนของเฮนเซลแทน (ในตอนแรกป้อมปืนของปอร์เช่ถูกผลิตออกมาเพียง 50 ป้อมเท่านั้น) นอกจากเกราะที่หนาแล้ว ไทเกอร์ 2 ยังติดปืนขนาด 88 มม. L71 ซึ่งมีอานุภาพสูงกว่าปืนต่อสู้รถถังทุกชนิดในยุคนั้น แต่จุดอ่อนก็คือ เครื่องยนต์ที่คิงไทเกอร์ใช้เป็นเครื่องยนต์แบบเดียวกันกับไทเกอร์ 1 เครื่องรุ่นเดียวกัน แต่รับน้ำหนักมากกว่า จึงมีปัญหากินน้ำมันอย่างมากและปัญหาขัดข้องด้วย อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์รุ่นนี้ก็ถือว่าทรงอานุภาพที่สุด
Ferdinand Porche ตั้งชื่อเล่นพร้อมกับไทเกอร์ 1 หลังจากไทเกอร์ 2 ถูกผลิตขึ้น โดยแท้จริงแล้ว ยานเกราะชนิดนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการ คือ Panzerkampfwagen VI Ausführung B Tiger 2 แต่อย่างไรก็ตามเหล่าทหารเยอรมันได้ตั้งชื่อเล่นอีกชื่อว่า คิงไทเกอร์ (KingTiger)
ข้อมูลการรบเท่าที่มีการบันทึกไว้ คือข้อมูลของทหารสหรัฐในยุทธการที่ป่าอาร์เดนส์ ประเทศเบลเยียม หรือที่เรียกว่า ยุทธการตอกลิ่ม โดยคิงไทเกอร์ได้สร้างความตกตะลึงให้แก่ฝ่ายพันธมิตรอย่างมาก เพราะพวกเขาพบว่า ปืนใหญ่แทบทุกชนิดของฝ่ายพันธมิตร ไม่สามารถสร้างความเสียหายใด ๆ ให้คิงไทเกอร์ได้เลย แม้จะโจมตีด้วยเครื่องบินก็ตาม มิหนำซ้ำทำให้ทหารฝ่ายพันธมิตรเกิดอาการหวาดกลัวต่อรถถังคิงไทเกอร์จนถึงกลับป่วยทางจิต อาการเหล่านี้เรียกว่า Tiger phobia คือ เวลาได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถถังหรือแม้แต่เห็นรถถังคันอื่นของข้าศึกที่มีลักษณะคล้ายรถถังคิงไทเกอร์ก็จะสะดุ้งตกใจกลัวทันที จนทำให้ทางกองทัพต้องปิดข่าวเรื่องรถถังคิงไทเกอร์ไม่ทหารรับรู้ และพลขับรถถังก็ไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับรถถังคิงไทเกอร์ แต่อย่างไรก็ตาม รถถังคิงไทเกอร์เป็นรถถังที่รับน้ำหนักมากทำให้เกิดปัญหากินน้ำมันจนทำให้น้ำมันในตัวหมดซึ่งทางกองทัพเวร์มัคท์ไม่มีน้ำมันมากพอที่จะเติมมันได้ ทำให้พลขับรถถังต้องสละทิ้งรถถังไปทำให้การรุกของกองทัพเยอรมันต้องหยุดชะงักลงและพ่ายแพ้ในที่สุด
แต่ข้อมูลการรบของฝ่ายเยอรมันนั้นแทบไม่มีเลย เพราะมีข้อมูลที่เปิดเผยในช่วงหลังสงครามว่า ในช่วงปลายสงครามแสดงในพิพิธภัณฑ์และงานแสดงทั่วโลก ตัวอย่างของยานเกราะที่ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ที่สุด คือ ยานเกราะที่ Musée de Blindés ในซามัวร์ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นยานเกราะเพียงคันเดียวที่ยังคงสามารถใช้งานได้
ไทเกอร์ 2 คาดว่าผลิตมา เพียง 492 คัน และได้มีโอกาสได้ร่วมสงครามแค่ 1 ปีเท่านั้นก่อนที่เยอรมันจะได้แพ้สงครามไปและเยอรมนีใกล้แพ้ ศูนย์ยุทธการทหารบกเยอรมันที่เมืองพอทสดัมได้เผาทำลายเอกสารข้อมูลและรูปถ่ายที่ได้มาระหว่างสงครามไปเกือบหมด รวมทั้งข้อมูลของคิงไทเกอร์ด้วย ซึ่งถ้าพิจารณาทฤษฏีนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า ข้อมูลของคิงไทเกอร์นั้นได้ถูกทำลายไปหมดแล้ว
หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงและนาซีเยอรมันพ่ายแพ้ให้กับสัมพันธมิตร รถถังรุ่นนี้ได้ถูกยกเลิกผลิตและปลดประจำการในกองทัพเยอรมัน แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ไทเกอร์ II ไม่กี่คันเท่านั้นที่ยังคงเหลืออยู่ให้โดยถูกนำมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น